ในที่สุด “อาซูกราน่า” บาร์เซโลน่า ก็สามารถทำได้สำเร็จตามเป้าหมาย สำหรับศึกเอลกลาซิโก้คำรบสองของลาลีกา สเปน ซีซั่น 2013-2014 ที่ซานติอาโก้ เบร์นาบิว บ้านของทัพราชันชุดขาว โดยผลการแข่งขันที่ออกมาเป็นบาร์เซโลน่าที่คว้าชัยไปแบบหวุดหวิด 4-3 และส่งผลให้พวกเขาลดช่องว่างจากทีมราชันเหลือเพียงแค่ 1 แต้มแล้วเท่านั้น จากเดิมที่ห่างกัน 4 แต้ม สำหรับไฮไลท์การยิงประตูที่เกิดขึ้นในเกมนี้ เป็นบาร์เซโลน่าที่ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วในนาทีที่ 7 จากอันเดรส อิเนียสต้า
ต่อมานาทีที่ 20 จึงเป็นเจ้าบ้าน รีล มาดริด ที่ตามตีเสมอได้จากลูกโหม่งของคาริม เบนเซม่า ทั้งยังพลิกขึ้นนำเป็น 2-1 ด้วยในนาทีที่ 24 จาคาริม เบนเซม่าคนเดิม อย่างไรก็ตามช่วงท้ายครึ่งเวลาแรกลิโอเนล เมสซี่โชว์การประสานงานร่วมกับเนย์มาร์และจบสกอร์ตีเสมอเป็น 2-2 ให้ทีมเยือน บทสรุปของครึ่งเวลาแรกจึงจบลงโดยไม่มีใครได้เปรียบ เสียเปรียบ แต่ครึ่งเวลาหลังก็ยังคงเป็นเจ้าบ้าน มาดริดที่มาได้ประตูนำอีกครั้งจากจุดโทษของคริเตียโน่ โรนัลโด้ในนาทีที่ 55 ทว่าหลังจากนั้นเป็นลิโอเนล เมสซี่ที่เหมายิงเพิ่งอีก 2 ประตู ในนาทีที่ 65 และ 84 กลายเป็นประตูตีเสมอ 3-3 และประตูชัย 4-3 ของทีมเยือนไปนที่สุด ส่งผลให้เจ้าตัวได้ลูกบอลกลับบ้านไปนอนกอดในฐานะคนยิงแฮตทริกได้ด้วย นอกจากนี้การยิงแฮตทริกในเกมนี้ยังเป็นผลต่อสถิติการยิงประตูสูงสุดในศึกเอลกลาซิโก้อีกต่างหาก
กล่าวคือตอนนี้ลิโอเนล เมสซี่ได้กลายเป็นผู้ยิงประตูในศึกเอลกลาซิโก้ได้เยอะที่สุดตลอดกาลเรียบร้อยแล้ว โดยยิงไปรวมทั้งหมด 21 ประตู จากเดิมก่อนเกมการแข่งขันศึกเอลกลาซิโก้หนล่าสุดนี้จะเริ่มขึ้นเมสซี่ยิงไปแล้ว 18 ประตู ถือครองสถิติร่วมกับ “อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่” ตำนานกองหน้าของทีมราชันชุดขาว รีล มาดริด ส่วนอันดับตารางคะแนนล่าสุด บาร์เซโลน่ายังรั้งที่ 3 แต่ก็อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าจำนวนแต้มห่างจากมาดริด จ่าฝูงเหลือเพียง 1 แต้มแล้ว (อันดับ 2 แอตฯมาดริดมีแต้มเท่ากับรีล มาดริด)